Panorama คืออะไร

Panorama คือ ภาพถ่ายที่ถ่ายเป็นชุดมาเรียงต่อๆกัน รวมเป็นภาพใหญ่ภาพเดียว ความยากง่ายของภาพถ่ายพาโนรามาขึ้นอยู่กับระดับราคา และเทคโนโลยีของบริษัทกล้องดิจิตอลนั้นๆ
โดยกล้องดิจิตอลที่ถ่ายภาพ Panorama ได้ง่ายๆนั้นมักเป็นเทคโนโลยีของกล้องคอมแพค หรือกล้องขนาดเล็ก

กล้องที่ถ่ายภาพแบบ Panorama มีดังนี้

1. ภาพที่ถ่ายมานั้น กล้องจะรวมภาพที่ถ่ายเป็นชุดแล้วเรียงต่อกันในตัวกล้องเลย
2. ถ่ายภาพเป็นช่วงๆ ( มักเป็นกล้องแคมแพครุ่นล่างๆ )
3. ถ่ายแล้วนำมาต่อในโปรแกรม 

การถ่ายภาพ  Panorama ต้องเตรียมตัวดังนี้

1. ปรับช่วงเลนส์ไปที่ระยะกว้างสุด
2. หาจุดถ่ายที่เป็นแนวยาว มีความเข้มแสงที่ไม่ต่างกันมาก
3. จุดยืนต้องมั่นคง 
4. ไม่ควรถ่ายในที่มีการเคลื่อนไหว 
5. การถ่ายแต่ละครั้งไม่ควรทิ้งเวลาไปนานๆ เพราะความต่างแสงจะเปลี่ยนไป

เซเล็บพร้อมใจ แชร์ภาพสะท้อน โชว์สไตล์กับโปรเจ็ค Samsung NX1000

เซเล็บพร้อมใจ แชร์ภาพสะท้อน โชว์สไตล์กับโปรเจ็ค  Samsung NX1000 NX1000: Reflect Me On!

จับตาเทรนด์ใหม่ เหล่าเซเล็บสุดชิคออกตัวขอแชร์สไตล์ จากกล้องเก๋ Samsung NX1000 ก่อนใคร!
 

ไม่ว่าจะเป็น วุ้นเส้น, เจนสุดา, กันต์ กันตถาวร, โมเม, แอ๊ปเปิ้ล  สีหาราช, หรือ มิ้น ณัฐวรา ก็พร้อมใจคว้า Samsung NX1000 ร่วมโปรเจ็ค NX1000: Reflect Me On! แชร์ภาพสะท้อน โชว์ตัวตนและสไตล์ของแต่ละคน ให้ทุกคนเห็นด้วยฝีมือแชะของตัวเอง พร้อมยกระดับคุณภาพการแชร์ จากรูปธรรมดาเป็นภาพสร้างสรรค์คุณภาพสูง ด้วยกล้อง Mirrorless ที่มี Wi-Fi ในตัว ซึ่งเหล่าเซเล็บสุดเก๋พร้อมเปลี่ยนโลกโซเชียลเน็ตเวิร์คของพวกเขาให้เป็นแกล อรี่แสดงผลงานตลอดตุลาคมนี้

สาเหตุที่เซเล็บสไตล์ล้ำต่างก็รีบออกตัว ขอเปิดเทรนด์นี้ก่อน ก็คงเป็นเพราะ ตัวกล้องเองที่เป็นแรงดึงดูด เพราะไม่ใช่แค่ดีไซน์เรี ยบเก๋ กะทัดรัด หรือแชร์ภาพจากกล้องได้สะดวกด้วย Wi-Fi ในตัว แต่ Samsung NX1000 มีคุณภาพระดับกล้อง DSLR ซี่งให้ความละเอียดสูงสุดถึง 20.3 ล้านพิกเซล  สามารถถ่ายวิดีโอคุณภาพสูง รวมถึงยังสามารถเปลี่ยนเลนส์ได้ และยังมีลูกเล่นอื่นๆนอกเหนือจากจุดเด่นที่ประกาศตัวว่า “Samsung NX1000 แชร์ได้ทุกเวลา ชัดกว่าทุกรายละเอียด” จึงไม่น่าแปลกใจที่ เซเล็บจะอยากได้และรีบคว้ามาเก็บความประทับใจก่อนเทรนด์จะมา แต่ถ้าใครสนใจอยากล้ำ          

นำเทรนด์ก่อนพวกเขาก็ลองค้นหา Samsung NX1000 ได้ที่ http://www.samsung.com/th/nx/
 

 

นิคอนเปิดรับสมัครผู้สนใจเข้าร่วมโครงการประกวดภาพถ่าย Nikon Photo Contest

กรุงเทพฯ – นิคอน ประกาศรับสมัครผู้สนใจเข้าร่วมโครงการประกวดภาพถ่าย Nikon Photo Contest ประจำปีพ.ศ. 2555 – 2556 โดยเปิดรับผลงานตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2555 ถึงวันที่  28 กุมภาพันธ์ 2556 ผ่านทาง http://www.nikon-photocontest.com/

โครงการประกวดภาพถ่าย “Nikon Photo Contest" (NPC) เป็นชื่อใหม่ที่ใช้แทนชื่อโครงการเดิม "Nikon Photo Contest International" (NPCI) จัดขึ้นโดยนิคอน ตั้งแต่ปีพ.ศ. 2512 โดยมีเป้าหมายเพื่อ "ส่งเสริมวัฒนธรรมการถ่ายภาพโดยเปิดเวทีให้ช่างภาพจากทั่วโลก ทั้งมืออาชีพและมือสมัครเล่น ได้พบปะและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ซึ่งกันและกัน"

สำหรับการประกวดในปีนี้ นับเป็นครั้งที่ 34 นิคอนได้ปรับรูปแบบการแข่งขัน ในหลายด้าน โดยเฉพาะการเพิ่มรางวัลประเภทภาพเคลื่อนไหว ขณะนี้กำลังเปิดรับผลงานภาพถ่าย 4 ประเภท ได้แก่ ภาพเดี่ยว (Category A), ภาพชุด (Category B ซึ่งประกอบด้วยภาพถ่ายเป็นชุด 2-5 ภาพ), ภาพเคลื่อนไหว (Category C ซึ่งเป็นไฟล์วิดีโอความยาว 45 วินาที) และภาพนิ่งเคลื่อนไหว หรือ Motion Snapshot (Category D) ทั้งนี้ ใน Category D ภาพที่ส่งเข้าประกวดจะต้องเป็นภาพนิ่งเคลื่อนไหว (Motion Snapshot) ที่รวมภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวไว้ด้วยกัน และถ่ายด้วยกล้องนิคอน วัน ซึ่งเป็นกล้องดิจิตอลที่สามารถเปลี่ยนเลนส์ได้

คณะกรรมการตัดสินในครั้งนี้ประกอบด้วยช่างภาพชื่อดังที่มีผลงานโดดเด่นใน ระดับโลก ผู้ซึ่งจะคัดเลือกผลงานชั้นยอดรวม 54 ผลงานเพื่อรับรางวัลที่ 1 ที่ 2 และที่ 3 ในแต่ละประเภท รวมถึงรางวัลสุดยอดภาพถ่าย (Grand Prize) สำหรับสุดยอดผลงานที่ได้รับการส่งเข้าประกวด นอกจากนี้ ทางโครงการยังจัดให้มีรางวัล "ผลงานยอดนิยม” (Participants’ Award for Most Popular Entry) จากการลงคะแนนเลือกโดยผู้เข้าประกวดด้วยกัน โดยจะมีการประกาศผลงานที่ชนะการประกวดในช่วงเดือนสิงหาคม ปี 2556 และผลงานที่ได้รับรางวัลทั้งหมดจะจัดแสดงในนิทรรศการภาพถ่าย โดยกำหนดการและสถานที่ รวมทั้งรายละเอียดอื่นๆ ประกาศให้ทราบต่อไป

หลักเกณฑ์การส่งผลงานเข้าประกวดในโครงการ Nikon Photo Contest ประจำปี พ.ศ. 2555 – 2556

ผู้มีสิทธิ์ส่งผลงานเข้าประกวด
โครงการนี้เปิดรับผู้สนใจทุกคน ทั้งช่างภาพระดับมืออาชีพและสมัครเล่น สามารถส่งผลงานเข้าร่วมประกวด โดยไม่จำกัดอายุ เพศ หรือสัญชาติ

แนวคิดหลักและประเภท
แนวคิด: ไม่กำหนดแนวคิดหลักใดๆ สำหรับผลงานที่จะส่งเข้าประกวดทั้ง 4 ประเภท

ประเภทการถ่ายภาพ
ประเภท A:         ภาพเดี่ยว
ประเภท B:         ภาพชุด (ซึ่งประกอบด้วยภาพถ่ายเป็นชุด 2-5 ภาพ)
ประเภท C:        ภาพเคลื่อนไหว (ซึ่งเป็นไฟล์วิดีโอความยาว 45 วินาที)
ประเภท D:        ภาพนิ่งเคลื่อนไหว หรือ Motion Snapshot (ถ่ายด้วยฟังก์ชั่น Motion Snapshot ของกล้องนิคอน วัน)

ระยะเวลาส่งผลงานเข้าประกวด
วันเสาร์ที่ 1 ธันวาคม 2555 จนถึงวันพฤหัสบดีที่ 28 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา 13.00 น.(ตามเวลามาตรฐานของญี่ปุ่น)

วิธีสมัครเข้าประกวด

ผู้สมัครสามารถส่งผลงานเข้าร่วมประกวดผ่านทางอินเทอร์เน็ต โดยเข้าไปที่เว็บไซต์ Nikon Photo Contest 2012–2013 (http://www.nikon-photocontest.com/) กรอกแบบฟอร์มแล้วส่งใบสมัครพร้อมผลงาน

หลักเกณฑ์การส่งผลงานเข้าประกวด
· ผู้สมัครแต่ละคนสามารถส่งผลงานเข้าประกวดได้ไม่เกิน 10 ผลงาน ในประเภท A และ B ตัวอย่างเช่น ส่งประกวดภาพถ่ายประเภทภาพเดี่ยวอย่างละ 1 ผลงาน รวม 2 ภาพ และส่งอีก 1 ชุด จำนวน 4 ภาพในประเภทภาพชุด รวมเป็นทั้งหมด 6 ภาพ
· ไม่สามารถส่งงานเดียวกันหรือบางส่วนของงานเดียวกันทั้งในประเภท A และ B
· ผู้สมัครแต่ละคนสามารถส่งผลงานเข้าประกวดได้เพียง 1 ผลงานในแต่ละประเภท C และ D โดยผลงานดังกล่าวสามารถส่งเพิ่มเติมจากผลงานที่ส่งในประเภท A และ B
· อนุญาตให้ส่งเฉพาะผลงานที่เป็นต้นฉบับ (original work) ซึ่งยังไม่เคยเปิดเผยที่ใดมาก่อนและเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้เข้าร่วมประกวด ผลงานใดที่เคยส่งประกวดในการประกวดอื่นๆ ก่อนหน้านี้หรือในขณะนี้จะไม่ได้รับการพิจารณา ประเภทของผลงานที่ส่งเข้าประกวดในโครงการอื่นๆ ยังรวมถึงผลงานที่ส่งเข้าประกวดในโครงการอื่นหลังจากส่งเข้าประกวดในโครงการ Nikon Photo Contest ด้วย

ผลงานที่จะได้รับการพิจารณา

ประเภท A และ B
· ไฟล์ข้อมูลภาพที่ถ่ายด้วยกล้องดิจิตอล (ทั้งแบบ Medium format และ Large format) รูปภาพที่ได้รับการตกแต่งโดยใช้ซอฟต์แวร์หรือโดยวิธีการอื่นใด จะได้รับการพิจารณาไม่จำกัดภาพสี หรือขาวดำ (ภาพสแกนจากภาพที่ถ่ายด้วยกล้องฟิล์มไม่สามารถส่งเข้าประกวดได้)
· ขนาดไฟล์: สูงสุด 20 MB
· รูปแบบไฟล์: ควรเป็น JPEG/150 dpi
· พื้นที่สีมาตรฐานสำหรับการตัดสิน คือ sRGB
· ผู้เข้าประกวดอาจได้รับการขอให้ส่งภาพความละเอียดสูงเพื่อการเผยแพร่หรือจัดแสดงที่เกี่ยวข้องกับการประกวด

ประเภท C
· ไฟล์ภาพเคลื่อนไหวที่จาก footage shot โดยใช้ฟังก์ชั่นการบันทึกภาพเคลื่อนไหวของกล้องดิจิตอลสำหรับถ่ายภาพนิ่ง (รวมทั้งกล้องขนาดกลางและขนาดใหญ่)
· ความยาว: 45 วินาที
· ไฟล์ภาพเคลื่อนไหวแต่ละไฟล์ที่ส่งเข้าประกวดจะต้องมีขนาดไฟล์ 200 MB หรือน้อยกว่าและเป็นไฟล์ MOV
· เพลงที่นำมาใช้ประกอบผลงานจะต้องไม่ติดลิขสิทธิ์ และจะต้องแสดงและบันทึกเสียงโดยผู้เข้าประกวด หรือบุคคลที่ได้รับมอบหมายจากผู้เข้าประกวดให้ดำเนินการ (ไม่อนุญาตให้ใช้เพลงที่จัดทำขึ้นเพื่อการค้าถึงแม้ว่าจะไม่ติดลิขสิทธิ์ เช่นกัน) หรือเป็นผลงานที่ผู้เข้าประกวดถือลิขสิทธิ์อยู่ และเป็นผลงานที่ลิขสิทธิ์ยังไม่ถูกโอนไปอยู่ในความดูแลของผู้จัดเก็บค่า ลิขสิทธิ์

ประเภท D
· ไฟล์ภาพนิ่งเคลื่อนไหว หรือ Motion Snapshot ที่ถ่ายด้วยฟังก์ชั่น Motion Snapshot ในกล้องนิคอน วัน
· ผลงานที่ส่งเข้าประกวดต้องเป็นไฟล์ MOV

การตัดสิน/ประกาศผล
ภายหลังจากการตัดสินผลงานในรอบแรกแล้ว ผลงานที่เข้ารอบจะได้รับการเผยแพร่บนเว็บไซด์ www.nikon-photocontest.com/en/#/judge  (กำหนดการเผยแพร่ผลงานในช่วงปลายเดือนเมษายน 2556) การตัดสินรอบที่สอง (เมษายน) และรอบสุดท้าย (มิถุนายน) โดยจะประกาศผลการตัดสินขั้นสุดท้ายบนเว็บไซต์ในเดือนสิงหาคม ปี 2556 ผู้เข้าประกวดทั้งหมดมีสิทธิ์ลงคะแนนเสียงเพื่อคัดเลือกผลงานที่สมควรได้รับ รางวัล "ผลงานยอดนิยม” จากการโหวตของผู้เข้าร่วมประกวด (Participants’ Award for Most Popular Entry) รายละเอียดจะมีการประกาศอย่างเป็นทางการบนเว็บไซต์

คณะกรรมการซึ่งมีตัวแทนจากทั่วโลก
(URL: http://www.nikon-photocontest.com/en/#/judge)



รางวัล

ผลงานที่โดดเด่นที่สุดในประเภท A, B และ C จะได้รับรางวัลชนะเลิศ (Grand Prize) จำนวนรางวัลรวมทั้งสิ้น 49 รางวัลในประเภท A, B และ C ซึ่งแบ่งเป็นรางวัลชนะเลิศ             1 รางวัล และรางวัลที่ 1, 2 และ 3 ในแต่ละประเภทรวม 48 รางวัล และอีก 3 รางวัลสำหรับผลงานยอดเยี่ยมในประเภท D

ผู้ชนะทั้งหมดในประเภทดังกล่าวข้างต้นจะได้รับถ้วยรางวัลพร้อมผลิตภัณฑ์นิ คอน ซึ่งมีมูลค่าตามประเภทของรางวัล นอกจากนี้ ผลงานยอดเยี่ยมที่ถ่ายด้วยเลนส์ NIKKOR จะได้รับรางวัล "NIKKOR Award" พร้อมถ้วยรางวัลและเงินรางวัล และผู้ได้รับรางวัล "ผลงานยอดนิยม” จากการโหวตของผู้เข้าร่วมประกวด (Participants’ Award for Most Popular Entry) จะได้รับเงินรางวัลและถ้วยรางวัล นอกจากนี้ จะมีการจัดนิทรรศการแสดงผลงานที่ได้รับรางวัลขึ้น และผู้ได้รับรางวัลสุดยอดภาพถ่าย (Grand Prize) และรางวัลที่ 1 ในแต่ละประเภทจะได้รับสิทธิ์ให้เผยแพร่ผลงานอื่นๆ ในแกลเลอรี่ภาพบนเว็บไซต์ Nikon Photo Contest 2012–2013

รายละเอียดรางวัล

ประเภท	รางวัลที่ 1	รางวัลที่ 2	รางวัลที่ 3
รางวัลสุดยอดภาพถ่าย (Grand Prize)	จำนวน: 1 รางวัล · ผลิตภัณฑ์นิคอนมูลค่ารวม 1,000,000 เยน · สิทธิ์ในการเผยแพร่ผลงานในแกลเลอรี่ภาพ	-	-
Category A: ภาพเดี่ยว	จำนวน: 1 รางวัล · ผลิตภัณฑ์นิคอน มูลค่ารวม 500,000 เยน · สิทธิ์ในการเผยแพร่ผลงานในแกลเลอรี่ภาพ	จำนวน: 5 รางวัล · ผลิตภัณฑ์นิคอนมูลค่ารวม 200,000 เยน	จำนวน: 10 รางวัล · ผลิตภัณฑ์นิคอนมูลค่ารวม 100,000 เยน
Category B: ภาพชุด	จำนวน: 1 รางวัล · ผลิตภัณฑ์นิคอนมูลค่ารวม 500,000 เยน · สิทธิ์ในการเผยแพร่ผลงานในแกลลอรี่ภาพ	จำนวน: 5 รางวัล · ผลิตภัณฑ์นิคอนมูลค่ารวม 200,000 เยน	จำนวน: 10 รางวัล · ผลิตภัณฑ์นิคอนมูลค่ารวม 100,000 เยน
Category C:ภาพเคลื่อนไหว	จำนวน: 1 รางวัล · ผลิตภัณฑ์นิคอนมูลค่ารวม 500,000 เยน · สิทธิ์ในการเผยแพร่ผลงานในแกลอรี่ภาพ	จำนวน: 5 รางวัล · ผลิตภัณฑ์นิคอน มูลค่ารวม 200,000 เยน	จำนวน: 10 · ผลิตภัณฑ์นิคอนมูลค่ารวม 100,000 เยน
Category D: ภาพนิ่งเคลื่อนไหว หรือ Motion Snapshot	จำนวน: 3 รางวัล · ผลิตภัณฑ์ Nikon มูลค่ารวม 200,000 เยน	-	-
NIKKOR Award	จำนวน: 1 รางวัล · รางวัลมูลค่า 100,000 เยน	-	-
"ผลงานยอดนิยมจากการโหวตของผู้เข้าร่วมประกวด” (Participants’ Award for Most Popular Entry)	จำนวน: 1 รางวัล · รางวัลมูลค่า 500,000 เยน	-	-

หมายเหตุ
· จะไม่มีการมอบรางวัลสุดยอดภาพถ่าย (Grand Prize) ให้หากไม่ปรากฏผลงานที่มีคุณสมบัติตามเกณฑ์ที่กำหนด
· ผู้ชนะทั้งหมดจะได้รับถ้วยรางวัล
· รางวัลที่ไม่ใช่เงินจะไม่สามารถเปลี่ยน โอน หรือแลกเป็นเงินสดได้

Samsung NX1000 กล้องดิจิตอล Mirrorless มี Wi-Fi ถ่ายปุ๊บแชร์ปั๊บ

ในปัจจุบันนี้ เทคโนโลยีการถ่ายภาพมีสิ่งใหม่ๆ ให้คนรักการถ่ายภาพได้ใช้งานง่ายขึ้น

ในปัจจุบันนี้ เทคโนโลยีการถ่ายภาพมีสิ่งใหม่ๆ ให้คนรักการถ่ายภาพได้ใช้งานง่ายขึ้น และสำหรับครั้งนี้ TechXcite ก็อยากจะแนะนำกล้อง Mirrorless สักตัวที่จะช่วยให้เรื่องของการถ่ายภาพเป็นเรื่องสนุกโดยเฉพาะคนที่ชอบแชร์ ภาพถ่ายต่างๆเพราะกล้องที่จะมาแนะนำวันนี้ก็คือ Samsung NX1000 กล้องดิจิตอล Mirrorless ที่มีระบบ Wi-Fi ในตัว เริ่มจากดีไซน์ภายนอกกันเลยดีกว่า กับรูปร่างที่เล็กกะทัดรัดและมีน้ำหนักเบา โดยตัวบอดี้นั้นเป็นพลาสติก มีสีดำ สีขาวและสีชมพูให้เลือก ตัวกล้องนั้นดูทันสมัย สวยงาม และจับถือได้เหมาะมือทีเดียว Samsung NX1000 นั้นเป็นกล้อง Mirrorless ซึ่งสามารถถอดเปลี่ยนเลนส์ได้ ดังนั้นผู้ใช้งานจึงสามารถเลือกเลนส์ที่เหมาะแก่การถ่ายภาพต่างๆ ได้หลากหลาย และที่สำคัญก็คือคุณภาพไฟล์ที่เทียบเท่ากล้อง DSLR เลยทีเดียว ด้วยเซ็นเซอร์ขนาด APS-C ที่มีขนาดใหญ่ แต่บอดี้กล้องเล็กกะทัดรัด ทำให้สะดวกในการพกพาอย่างมาก การออกแบบของปุ่มต่างๆ บนตัวกล้องนั้นมีไม่เยอะมากนัก เหมาะสำหรับมือใหม่หรือผู้ที่ต้องการกล้องดิจิตอลที่ใช้งานง่าย ความละเอียดของเซ็นเซอร์ 20.3 ล้านพิกเซล เหลือเฟือสำหรับการใช้งานต่างๆ แถมมีไฟล์ RAW ให้ใช้งานอีกด้วย เรียกได้ว่าไม่ต้องห่วงเรื่องไฟล์ภาพเลย นอกจากนี้ Samsung NX1000 ยังสามารถกำหนดอัตราส่วนภาพได้อีกด้วย โดยสามารถปรับสัดส่วนภาพได้ 3 ขนาด คือ แบบ 3:2 16:9 และ 1:1 แต่ความละเอียดของภาพจะน้อยลงไปตามอัตราส่วนที่เลือก สำหรับการถ่ายวีดีโอนั้น กล้อง Samsung NX1000 ก็สามารถใช้งานถ่ายวีดีโอด้วยความละเอียดสูง Full HD 1080p/30fps เพียงพอต่อการใช้งานทั่วไปครับ อีกเรื่องก็คือกล้องตัวนี้สามารถใช้แฟลชต่อภายนอกได้ด้วย โดยมีฮอทชูเสียบแฟลชมาให้และในชุดก้มีแฟลชแถมมาให้ด้วย แต่ตัวบอดี้กล้องนั้นไม่มีแฟลชป็อปอัพครับ ยังไงแล้วต้องเสียบแฟลชพกพาไปด้วย การออกแบบแป้นหมุนนั้นใช้งานง่าย มีโหมดถ่ายภาพหลักๆให้เลือกใช้ทั้ง P,A,S,M รวมถึงโหมดถ่ายวีดีโอ โหมดการถ่ายภาพอัจฉริยะ โหมดฟิลเตอร์ถ่ายภาพ และที่เป็นฟีเจอร์เด็ดก็คือระบบ Wi-Fi สำหรับการเชื่อมต่อและแชร์รูปภาพ โดยสามารถใช้งานปุ่ม Smart Link เพียงปุ่มเดียว การใช้งาน Wi-Fi นั้น สามารถที่จะเชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์หรือแม้แต่การอัพโหลดภาพเพื่อแชร์สู่ Social Network ได้เลย หรือจะส่งเป็นอีเมล์ก็ทำได้จากตัวกล้องไม่ต้องใช้สายโหลดข้อมูลแต่อย่างใด Image Sensor CMOS Image Sensor ขนาดเซ็นเซอร์ 23.5 x 15.7มม. ประมาณ 20.3 ล้านพิกเซล(effective) ประมาณ 21.6 ล้านพิกเซล RGB Primary Color Filter การป้องกันภาพสั่นไหว Lens Shift (ขึ้นอยู่กับเลนส์) OIS Mode1 / Mode2 / OFF จอแสดงผล TFT-LCD ขนาด 3 นิ้ว ความละเอียด VGA (640 x 480) 614k จุด ขอบเขตการมอง ประมาณ 100% Grid (4 แบบ), Histgram, Icons: On / Off, Distance Scale: ft / m / Off, Electronic Level การเปิดรับแสง TTL 221 (17 x 13) บล็อกเซกเมนต์, มิเตอร์: Multi, Center-weighted, Spot, ช่วงมิเตอร์: EV 0-18 (ISO 100 30mm, F2) 3EV (1/3EV step) มีคีย์ CUSTOM Auto, 100, 200, 400, 800, 1600, 3200, 6400, 12800 (1 หรือ 1/3EV step) สมดุลสีขาว Auto, Daylight, Cloudy, Fluorescent (W, N, D), Tungsten, Flash, Custom, K (Manual) แต่ละ 7 จังหวะในแกน Amber / Blue / Green / Magenta ถ่ายภาพ SmartAuto (2.0), Program, Aperture Priority, Shutter Priority, Manual, Lens Priority, Magic, Scene, Movie, Wi-Fi โหมดฉาก: Panorama (Live, 3D), Beauty shot, Night, Landscape, Portrait, Children, Sports, Close-Up, Text, Sunset, Dawn, Backlight, Fireworks, Beach & Snow, 3D Photo JPEG (3:2): 20.0M (5472 x 3648), 10.1M (3888 x 2592), 5.9M (2976 x 1984), 2.0M (1728 x 1152), 5.0M (2736 x 1824): โหมด Burst เท่านั้น, JPEG (16:9): 16.9M (5472 x 3080), 7.8M (3712 x 2088), 4.9M (2944 x 1656), 2.1M (1920 x 1080) , JPEG (1:1): 13.3M (3648 x 3648), 7.0M (2640 x 2640), 4.0M (2000 x 2000), 1.1M (1024 x 1024), RAW: 20.0M (5472 x 3648) คุณภาพ: Super fine, Fine, Normal SRW sRGB / Adobe RGB Smart Filter (Magic Mode): Vignetting, Miniature, Fish-Eye, Sketch, De-fog, Halftone Dots, Soft Focus, Old Film1, Old Film2, Negative, Selective Color (4 Color Modes) Magic Frame (Magic Mode): Old Album, Old Film, Wave, Full Moon, Old Record, Magazine, Sunny Day, Classic TV, Wall Art, Holiday, Billboard 1, Billboard 2, Newspape ที่จัดเก็บข้อมูล SD, SDHC, SDXC (รับประกันสูงสุด 128GB) RAW (SRW), JPEG (EXIF 2.21), DCF, DPOF 1.1, PictBridge 1.0 20.0M: RAW 53, 20.0M (3:2): Super Fine 186, Fine 364, Normal 535, 10.1M (3:2): Super Fine 378, Fine 724, Normal 1043, 5.9M (3:2): Super Fine 626, Fine 1168, Normal 1642, 2.0M (3:2): Super Fine 1627, Fine 2742, Normal 3553, Burst (5.0M): Super Fine 731, Fine 1349, Normal 1878, 16.9M (16:9): Super Fine 230, Fine 448, Normal 655, 7.8M (16:9): Super Fine 485, Fine 919, Normal 1310, 16.9M (16:9): Super Fine 747, Fine 1376, Normal 1912, 2M (16:9): Super Fine 1573, Fine 2666, Normal 3468, 13.3M (1:1): Super Fine 289, Fine 560, Normal 814, 7M (1:1): Super Fine 536, Fine 1010, Normal 1432, 4M (1:1): Super Fine 893, Fine 1621, Normal 2224, 1M (1:1): Super Fine 2645, Fine 4057, Normal 4936, ภาพยนตร์: 1920 x 1080 30p: คุณภาพสูง 17m 45s, ปกติ 22m 09s, 1920 x 810 24p: คุณภาพสูง 74m 08s, ปกติ 91m 51s, 1280 x 720 30p: คุณภาพสูง 29m 26s, ปกติ 36m 41s, 640 x 480 30p: คุณภาพสูง 74m 08s, ปกติ 91m 51s, 320 x 240 30p: คุณภาพสูง 238m 30s, ปกติ 289m 55s GPS Geo-tagging มีชุดอุปกรณ์เสริม GPS (WGS84) ชื่อตำแหน่ง (OSD) (อังกฤษและเกาหลีเท่านั้น) ลิงค์ Google Map (ด้วย intelli-Studio) ข้อกำหนดทางกายภาพ 114 x 62.5 x 37.5มม. (ไม่รวมส่วนที่ยื่นออกมา) 222g (ไม่มีแบตเตอรี่และการ์ดหน่วยความจำ) 0 - 40C 5 ~ 85% สำหรับการถ่ายภาพด้วยกล้อง Samsung NX1000 นั้น ต้องบอกว่า พกพาง่ายและสะดวกมาก เนื่องจากน้ำหนักที่เบาและมีขนาดเล็ก ไม่เป็นภาระต่อการเดินทางท่องเที่ยวถ่ายภาพแต่อย่างใด ประสิทธิภาพในการโฟกัสภาพของ Samsung NX1000 นั้น ทำงานได้อย่างรวดเร็ว ไม่มีปัญหาเรื่องการโฟกัสในที่แสงน้อยแต่อย่างใด ถือว่าทำได้น่าประทับใจมากครับสำหรับจุดนี้ จุดหนึ่งที่ดูขัดใจเล็กน้อยก็คือ เลนส์คิตที่ให้มานั้นไม่มีระบบป้องกันภาพสั่นไหว แถมตัวกล้องก็ไม่มีระบบกันสั่นอีกด้วย ซึ่งตรงนี้สำหรับช่างภาพแล้วถือว่าค่อนข้างมีประโยชน์สำหรับการถ่ายภาพใน ช่วงเวลาที่แสงน้อย การไม่มีฟังก์ชั่นดังกล่าวทำให้โอกาสเกิดภาพสั่นไหวมีมากขึ้น ในส่วนของฟิลเตอร์หรือลูกเล่นต่างๆนั้น Samsung NX1000 ให้ลูกเล่นตรงนี้มาเยอะ และช่วยให้ถ่ายภาพสนุกขึ้นมากครับ อย่างเช่นการใส่กรอบให้กับภาพได้เลย และแถมอีกนิดด้วยปุ่ม i-Function บนตัวเลนส์ มีประโยชน์ตรงจุดที่ไม่ต้องเข้าเมนูจากตัวกล้อง สามารถปรับค่าต่างๆ ได้ง่ายดาย ด้วยความละเอียดของไฟล์ภาพขนาดใหญ่ บางครั้งการถ่ายภาพต่างๆก็อาจจะต้องรอให้มีการทำงาน Buffer ของไฟล์อยู่บ้าง แต่เมื่อแลกกับไฟล์ขนาดใหญ่ที่ให้ความละเอียดสูงแล้ว ก็ถือว่าได้ไฟล์ภาพที่ดีและนำมาใช้ประโยชน์ได้เยอะ ลูกเล่นที่สนุกและใช้งานง่ายอีกตัวที่อยากแนะนำก็คือการถ่ายภาพพาโนรามา Samsung NX1000 ตัวนี้ สามารถเก็บภาพเป็นมุมกว้างได้อย่างน่าประทับใจ และใช้งานสะดวกมากครับ สำหรับการถ่่ายภาพต่อเนื่องด้วยความเร็วสูงถึง 8 ภาพต่อวินาทีของ Samsung NX1000 ตัวนี้ สามารถเก็บภาพในจังหวะสวยๆ ได้ดีเยี่ยม ลองไปดูภาพประกอบครับว่าเก็บภาพต่อเนื่องได้ดีแค่ไหน สุดท้ายกับการทดสอบเรื่อง Noise ที่ปรากฏว่าทำได้อย่างน่าประทับใจมากๆ แม้ว่าจะใช้ ISO สูงๆก็ตาม จากตัวอย่างภาพเมื่อนำมาย่อลงเว็บแล้วแทบไม่เห็น Noise แต่อย่างใด ลองดูภาพครอป 100% เปรียบเทียบระหว่าง ISO 100 ในภาพแรก กับ ISO 12800 ในภาพที่สองได้เลยครับ หลังจากที่ได้ทดลองใช้งาน Samsung NX1000 แล้ว สรุปได้เลยว่ากล้องตัวนี้เป็นกล้องที่มีเทคโนโลยีที่ทันสมัย และใช้งานง่าย รวมถึงบอดี้ที่มีขนาดเล็กกะทัดรัดและน้ำหนักเบา เรียกได้ว่าเหมาะสำหรับผู้ที่มองหากล้องสำหรับวันพักผ่อนท่องเที่ยวสบายๆ จุดเด่น ขนาดเล็ก น้ำหนักเบา พกพาง่าย ใช้งานง่าย คุณภาพไฟล์ดี และมีความละเอียดสูง ลูกเล่นต่างๆใช้งานง่าย มี Wi-Fi ให้ใช้งาน สามารถแชร์รูปได้อย่างง่ายดาย จุดสังเกต ไม่มีระบบกันสั่นมาให้ หาจุด Wi-Fi Hotspot ไม่ได้ เวลาไปท่องเที่ยว

Nikon D3200 มองหากล้อง DSLR สำหรับมือใหม่

ล้อง DSLR รุ่นเล็ก น้องใหม่จากค่าย Nikon เป็นกล้องที่เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นถ่ายภาพด้วยสเป็คที่จัดมาให้แบบเต็มที่

Nikon D3200 กล้อง DSLR รุ่นเล็ก น้องใหม่จากค่าย Nikon เป็นกล้องที่เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นถ่ายภาพด้วยสเป็คที่จัดมาให้แบบเต็มที่ หากใครกำลังมองหากล้อง DSLR ตัวแรกที่จะนำมาใช้ฝึกฝนถ่ายภาพ ลองมองดู Nikon D3200 ตัวนี้ก่อนว่ามีดีอะไรบ้าง เชิญรับชมกันได้ ณ บัดนี้ครับ เริ่มจากตัวบอดี้ของ Nikon D3200 กันเลยครับ ตัวกล้องนั้นมีขนาดเล็ก ซึ่งแน่นอนว่าน้ำหนักตัวก็เบาตามไปด้วยเมื่อเทียบกับกล้องรุ่นใหญ่ ฉะนั้นแล้วถ้าหากเป็นคนมือใหญ่อาจจะจับถือไม่ถนัดเท่าไรนัก แถม Nikon D3200 ไม่มี Grip ออกมาซะด้วย แต่ถ้าชอบกล้องตัวเล็กๆ เหมาะกับการเดินทางแล้ว Nikon D3200 อาจจะเป็นตัวเลือกที่ดีตัวหนึ่งก็ได้ ในส่วนของการปรับตั้งค่าการใช้งานกล้อง Nikon D3200 นั้น เน้นการใช้งานที่ง่าย แต่ก็ยังไม่ทิ้งระบบการทำงานแบบมืออาชีพ โดยด้านบนตัวกล้องนั้นมีแป้นหมุนเลือกโหมดถ่ายภาพ ปุ่มถ่ายวีดีโอที่แยกออกมาต่างหาก ปุ่มดูข้อมูลกล้อง ปุ่มชดเชยแสง เป็นต้น และที่เอาใจมือใหม่ก็คือ Nikon ได้ใส่ Guide Mode ซึ่งเป็นโหมดการแนะนำเกี่ยวกับการตั้งค่าต่างๆ ของกล้อง ช่วยให้ง่ายต่อการเรียนรู้กล้องครับ สำหรับสเป็คกล้องนั้น Nikon D3200 โดดเด่นตรงที่จัดเซ็นเซอร์ความละเอียดสูงถึง 24 ล้านพิกเซลมาให้ ระบบโฟกัสที่ให้มา 11 จุดใช้งานได้ดีทีเดียว แต่ที่ขาดไปก็คือระบบ CLS ที่สามารถสั่งงานแฟลชไร้สายไม่ได้ให้มาด้วย ฉะนั้นใครที่คิดว่าจะซื้อกล้องมาเพื่อใช้งานระบบแฟลชไร้สายคงต้องไปรุ่นใหญ่ กว่านี้เลย หน้าจอ LCD ด้านหลังนั้นบิดพับไม่ได้ครับ อาจจะขัดใจไปบ้างในเรื่องความสะดวกในการถ่ายภาพมุมแปลกๆ การที่ Nikon D3200 ไม่มีจอพับมาให้ก็เป็จุดสังเกตจุดหนึ่งหากจำเป็นต้องใช้งาน ส่วนปุ่มต่างๆ ของกล้องนั้นยังคงเป็นมาตรฐานของกล้อง Nikon DSLR ที่เอาไว้เรียกใช้งานได้อย่างรวดเร็ว Nikon D3200 รองรับการ์ดแบบ SD ซึ่งหาซื้อได้ง่ายราคาไม่แพง ใครคิดจะซื้อมาถ่ายคลิปวีดีโอก็ต้องซื้อการ์ดดีๆความจุเยอะ ความเร็วสูงมาใช้ครับ จะช่วยให้ถ่ายงานได้ราบรื่นขึ้นแน่นอน ในส่วนของแบตเตอรี่นั้นใช้รุ่น EN-EL14 ซึ่งเป็นแบบเดียวกับกล้องรุ่นเก่าอย่าง D3100 , D5100 ใครมีกล้องตัวเก่าตามที่บอกอยู่แล้ว จะซื้อ Nikon D3200 มาใช้งานอีกตัวก็สามารถใช้แบตเตอรี่ร่วมกันได้เลย สำหรับพอร์ตเชื่อมต่อต่างๆ ของกล้องก็มีมาให้ครบทั้ง USB , HDMI ช่องเสียบไมโคโฟนและรองรับการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์เสริมอย่าง GPS และ ระบบ Wireless เรียกได้ว่าหาซื้อมาต่อทำงานได้เลยไม่ต้องปวดหัว ทีนี้มาลองดูตัวอย่างไฟล์ภาพกันบ้าง Nikon D3200 นั้น สำหรับเรื่องแรกที่อยากจะพูดถึงก็คือระบบ Auto White Balance ที่ฉลาดไม่แพ้กล้องรุ่นใหญ่เลย การถ่ายภาพในสภาพแสงในอาคารนั้น ถือว่าใช้งานได้ดีเลยทีเดียว ไฟล์ขนาด 24 ล้านพิกเซลที่ให้มานั้นเพียงพอต่อการใช้งานจนเรียกได้ว่าเหลือเฟือเลยที่ เดียว จะเอาไปใช้งานแบบขยายภาพใหญ่ๆ หรือจะย่อลงเว็บก็คมชัดสวยงาม เรียกว่าแซงรุ่นพี่หลายๆตัวเลยครับ มาดูเรื่อง Noise กันบ้าง จากการทดสอบที่ ISO 6400 พบว่า Noise มาให้เห็นกันเต็มเลยครับ ภาพตัวอย่างด้านล่างลองดูนะครับ อาจจะเป็นเพราะเซ็นเซอร์ที่มีความละเอียดสูง ทำให้ Noise มาเยอะเมื่อใช้ ISO สูงๆ โดยส่วนตัวแล้วคิดว่า หากต้องการคุณภาพของไฟล์จริงๆ ควรใช้ไม่เกิน 1600 ครับ ส่วนสีสันและการถ่ายทอดรายละเอียดของกล้อง Nikon D3200 นั้น ให้คะแนนดีเลยครับ โดยกล้องสามารถเก็บเอารายละเอียดภาพได้ดีมาก หากตัดปัญหาเรื่อง Noise ไปแล้ว ถือว่าน่าใช้มากๆครับสำหรับมือใหม่ที่อยากได้กล้องที่มีไฟล์ภาพใหญ่ๆ รายละเอียดดีๆ ครบๆ จุดเด่นอีกอย่างก็คือ ไฟล์ RAW ที่สามารถเอามาเล่นต่อเพิ่มเติมได้เยอะ และในระดับราคากล้องที่ให้ไฟล์ภาพที่เอามาโพรเซสต่อได้สนุกๆแบบนี้ก็น่าเล่น เหมือนกันนะครับ อย่างเช่นภาพตัวอย่าง Convert ไฟล์ RAW มาก่อนภาพนึงยังไม่ถูกใจ ขอไปแก้ไขใหม่ เห็นผลเลยว่าไฟล์ RAW ของ D3200 ทำอะไรต่างๆ ได้เยอะกว่ากล้องในอดีตรุ่นเก่าๆ ครับ ได้รายละเอียดภาพมากขึ้นชัดๆ เลย ขออีกสักเรื่องสุดท้ายก่อนสรุปกับเรื่องของการโฟกัส โดย Nikon D3200 นั้น ให้ระบบโฟกัสแบบ 11 จุด เป็น Cross Type 1 จุด จากการใช้งานจริงภายใต้สภาพแสงน้อยส์ๆ พบว่าทำงานได้รวดเร็วและเข้าเป้าดี ถึงจะไม่เร็วเท่ากล้องโปรรุ่นพี่ แต่สำหรับผมแล้วผมรับได้ ให้ผ่านครับ สุดท้ายสำหรับสรุปภาพรวมของ Nikon D3200 นะครับ จากการได้ทดลองใช้งานแล้วพบว่า เจ้า Nikon D3200 ให้ไฟล์ภาพที่ใหญ่โตและเอามาใช้งานได้หลากหลาย แถมระบบโดยรวมต่างๆ ของกล้องก็ทำงานได้ดี แม้ว่าจะไม่ใช่กล้องระดับโปร ถ้าให้แนะนำก็คือเหมาะสำหรับผู้ที่มองหากล้อง DSLR สำหรับการเริ่มต้นศึกษาถ่ายภาพครับ เนื่องจากราคาค่าตัวไม่แพงและระบบการทำงานค่อนข้างครบถ้วน จุดเด่น ไฟล์ภาพที่ให้รายละเอียดสูง ความละเอียดเซ็นเซอร์เยอะ 24 ล้านพิกเซล สามารถใช้งานอุปกรณ์เสริมต่างๆ ได้เยอะ ระบบโฟกัสแม่นยำ ไม่วืดวาดมากนัก ระบบโหมดถ่ายภาพต่างๆใช้งานง่าย สะดวก เหมาะสำหรับมือใหม่ จุดสังเกต การจัดการ Noise ทำได้ไม่ดีนัก ไม่มีระบบสั่งงานแฟลชแบบไร้สาย CLS หน้าจอบิดพับไม่ได้

Landscape คืออะไร

Landscape คือ การถ่ายภาพแนววิวทิวทัศน์ ผู้ที่ชอบถ่ายแนว landscape นั้นต้องอาศัยการศึกษาข้อมูล การรอเวลา และต้องเสียพละกำลังเป็นจำนวนมาก บางคนมักพูดว่า การถ่าย landscape นั้นต้องใช้เลนส์ wide (เลนส์มุมกว้าง ) แต่จริงๆแล้วเลนส์ซูมก็สามารถถ่ายในแนว landscape  ได้เหมือนกัน เช่น ทะเลหมอก พระอาทิตย์กำลังจะขึ้น/ตก ทำให้ภาพดูเด่นและ ชัดเจนยิ่งขึ้น แล้ว การซูมเข้าไปยังวัตถุนั้นทำให้ภาพวิวแปลกตาขึ้นอีกด้วย การถ่ายภาพแนว landscape (แนวทิวทัศน์) นั้นควรมีฉากหน้าและฉากหลัง เพื่อให้แสดงระยะของมิติภาพ บางครั้งเราสามารถเลือกได้ว่าจะเอาฉากหน้าหรือฉากหลังให้เด่นกว่ากัน อาจใช้ฉากหน้าเป็นเฟรมของภาพ หรือให้ฉากหน้าเป็นเส้นนำสายตาไปยังจุดของฉากหลัง เราสามารถนำเส้นนำสายตาเช่นแนวเส้นถนน ช่องหิน สายน้ำ แนวหิน เส้นขอบสะพาน เป็นตัน

การถ่าย  การถ่ายภาพวิวทิวทัศน์ ( landscape ) ต้องเตรียมตัวและปรับตั้งค่าอะไรบ้าง
1.  ขาตั้งกล้อง เพราะบางช่วงเวลาอาจมีแสงน้อยเช่นถ่ายพระอาทิตย์ขึ้น / ตก เวลาถ่ายรถวิ่งในยามค่ำคืน การใช้รูรับแสงแคบ เช่น F 16 ขึ้นไปแฉกที่เกิดจากการสะท้อนแสงจะเป็นเส้นๆดูสวยงาม
2.  ปรับการตั้งค่าไปที่หมวด M และปรับ ISO ที่น้อยที่สุด
3.  ปรับแต่ง WB เพื่อภาพที่ดูแตกต่าง
4.   มักนิยมปรับค่ารูรับแสงอยู่ที่ F16 ขึ้นไปในการถ่าย landscape
5.  ถ่ายด้วยไฟล์ Raw เราสามารถปรับเปลี่ยนค่าแสงได้ทีหลัง ( มักมีในกล้องดิจิตอลราคาแพง )