หน้าเว็บ

วันพฤหัสบดีที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2556

Canon EOS 650D Feat. EF 40mm F2.8 กล้อง DSLR หน้าจอสัมผัสตัวแรกของโลก

วันนี้ มีกล้อง DSLR มาให้ชมกันกับ Canon EOS 650D และขอพ่วงด้วยเลนส์ Pancake อย่าง EF 40mm F2.8 ด้วย สำหรับ Canon EOS 650D นั้นถือเป็นกล้อง DSLR ในตระกูล EOS รุ่นใหม่


วันนี้มีกล้อง DSLR มาให้ชมกันกับ Canon EOS 650D และขอพ่วงด้วยเลนส์ Pancake อย่าง EF 40mm F2.8 ด้วย สำหรับ Canon EOS 650D นั้นถือเป็นกล้อง DSLR ในตระกูล EOS รุ่นใหม่ที่หลายต่อหลายคนให้ความสนใจ เนื่องจากมันเป็นกล้อง DSLR ตัวแรกที่มีหน้าจอระบบสัมผัสตัวแรกของโลก
เริ่มจากที่ตัวบอดี้ของ Canon EOS 650D นั้นยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดอะไรจากรุ่นเดิมอย่าง EOS 600D มากมายนัก ยังคงเอกลักษณ์ของความเป็น Canon ในตระกูลเลขสามหลักอยู่
ด้วยขนาดบอดี้ที่ไม่ใหญ่จนเกินไปนัก จึงเหมาะที่จะเป็นกล้องที่สะดวกในการพกพาสำหรับการท่องเที่ยว ยิ่งติดเลนส์เล็กๆอย่าง EF 40mm F2.8 แล้ว ดูกะทัดรัดไม่เป็นที่สะดุดตาในการถ่ายภาพแนว Street ครับ ส่วนในเรื่องวัสดุบอดี้ที่เป็นพลาสติกทั้งตัว แม้ว่าจะดูไม่แข็งแรงมากนัก แต่หากไม่ได้สมบุกสมบันอะไรมากมาย canon EOS 650D ก็ไว้ใจได้ในระดับหนึ่งในเรื่องความคงทนแข็งแรง
ตัวกล้อง Canon EOS 650D นั้นมีพอร์ตเชื่อมต่อต่างๆครบถ้วน และยังมีแฟลชป๊อบปอัพในตัวที่สามารถทำงานกับแฟลชภายนอกด้วยระบบแฟลชไร้สาย กับแฟลชรุ่น Speedlite 600EX-RT ได้ด้วย มันดีตรงนี้แหละ!
ในส่วนด้านหลังของตัวบอดี้นั้น ยังคงปุ่มต่างๆที่เหมือนกับ EOS 600D เป๊ะๆ เรียกได้ว่าถ้ามองเผินๆแต่ด้านหลังแล้ว แยกไม่ออกว่าตัวไหน 650D ตัวไหน 600D ครับ เพิ่มเติมอยู่จุดหนึ่งก็คือ ด้านหลังตรงบิเวณช่องมองภาพจะมีเซ็นเซอร์ตัดการทำงานของหน้าจอ LCD เวลาเอาตาไปแนบครับ จะได้ไม่เปลืองไฟหรือเอาหน้าไปจิ้มโดนจอระบบสัมผัส
สำหรับหน้าจอ LCD ของ Canon EOS 650D นั้น สามารถบิดพับได้ แต่จุดเด่นของรุ่นนี้ก็คือ หน้าจอระบบสัมผัสหรือที่เราเรียกกันทั่วไปว่า Touchscreen นั่นเอง ตรงหน้าจอนี้มีประโยชน์ในเรื่องของการถ่ายภาพไม่ว่าจะเป็นการเข้าเมนูต่างๆ หรือสามารถจิ้มหน้าจอเพื่อโฟกัสและถ่ายภาพได้ทันทีเลยเหมือนโทรศัพท์สมาร์ท โฟน แถมตอนดูรูปยังสามารถถ่างนิ้วเพื่อขยายภาพดูได้โดยไม่ต้องไปกดปุ่ม +/- เหมือนเมื่อก่อน
ด้านบนของตัวกล้อง Canon EOS 650D จะมีจุดเปลี่ยนแปลงนิดหน่อย โดยเพิ่มสวิตซ์ปรับโหมดถ่ายวีดีโอเพิ่มเข้ามาจากแต่เดิมมีแค่ ON-Off ทำให้เวลาจะถ่ายวีดีนั้นสะดวกขึ้นอย่างมากผลักสวิตซ์ไปที่เดียวแล้วถ่ายได้ เลย ไม่ต้องมานั่งบิดแป้นเลือกโหมด
และอีกจุดหนึ่งที่ Canon ให้ความสำคัญก็คือ ไมโครโฟนระบบสเตอริโอสำหรับการถ่ายวีดีโอ รู้สึกว่าในระยะหลังมานี้ Canon เน้นให้กล้อง DSLR ของตนเองมีฟีเจอร์การถ่ายวีดีโอที่ดีขึ้นหลายจุด อย่างเช่นเรื่องเสียงสเตอริโอนี้ก็ถือเป็นจุดเด่นของกล้องรุ่นนี้เหมือนกัน
สำหรับเมมโมรี่การ์ดที่รองรับกับ canon EOS 650D ยังคงเป็น SD Card ทั่วไป ซึ่งมีราคาถูก ได้รับความนิยมในกล้องหลายๆรุ่นและอ่านเขียนข้อมูลได้รวดเร็ว คนที่คิดจะเปลี่ยนกล้องคงไม่ต้องกังวลหรือต้องซื้อการ์ดใหม่ให้ปวดหัว
สำหรับฟีเจอร์เด่นๆที่เปลี่ยนแปลงจาก Canon EOS 600D ตัวเดิม นอกจากเรื่องของแฟลชไร้สายและหน้าจอระบบสัมผัสแล้วก็ยังมีในเรื่องของเซ็น เซอร์ที่อัพเกรดจากเดิมเป็น Hybrid CMOS ที่ช่วยให้การโฟกัสแบบ Live View ทำงานได้รวดเร็วขึ้น หมายความว่าไม่ต้องปิดม่านชัตเตอร์ตอนหาโฟกัส สามารถโฟกัสและเปิด Live View ให้เรามองเห็นไปด้วยได้เลย
แถมจุดเด่นที่เพิ่มเติมอย่างระบบประมวลผล DiGic5 ถ่ายภาพต่อเนื่องได้เร็วขึ้นถึง 5 ภาพต่อวินาที ระบบโฟกัสก็พัฒนาเป็นแบบ All Cross Type 9 จุด ISO ก็เร่งได้สูงขึ้นเป็น 12800 และเพิ่มขยายได้ถึง 25600
และคราวนี้ก็ขอพ่วงด้วยเลนส์อย่าง Canon EF 40mm F2.8 ด้วยเพราะว่าเปิดตัวมาพร้อมกัน และถือเป็นเลนส์ที่ออกแบบมาให้ทำงานด้านการถ่ายวีดีโอโดยเฉพาะเลยก็ว่าได้ (ไม่นับรวมเลนส์คิต 18-135mm F3.5-5.6 STM ตัวนี้ก็เน้นวีดีโอเหมือนกัน) ถามว่าเน้นเรื่องวีดีโอตรงไหนก็ตรงที่มอเตอร์ STM (Stepping Motor) ที่เวลาโฟกัสภาพจะเงียบและนุ่มนวล เพราะปกติแล้วเวลาใช้ระบบออโต้โฟกัสตอนถ่ายวีดีโอ มักจะมีปัญหาเสียงมอเตอร์และภาพกระชากครับ
จุดเด่นอีกอย่างของเลนส์ตัวนี้ก็คือ ขนาดที่เล็กและบาง แถมเบาอีกด้วย เท่านั้นยังไม่พอ ที่ชอบมากไเลยก็คือความคมและความเร็วในการโฟกัสที่ทำได้รวดเร็วแม่นยำ แถมโฟกัสได้ใกล้ถึง 30 เซนติเมตร ถ่ายสนุกมากครับ
เดี๋ยวยังไปดูในเรื่องของตัวอย่างไฟล์ภาพและความคิดเห็นหลังจากการใช้ งานกล้อง Canon EOS 650D ตัวนี้กันครับ ซึ่งมีทั้งการทดสอบด้วยเลนส์ Canon EF-S 18-135 F3.5-5.6 STM ซึ่งเป็นเลนส์คิตกับ Canon EF 40mm F2.8 STM
เริ่มจากการใช้งานถ่ายภาพทั่วไปด้วยเลนส์ EF 40mm F2.8 กันครับ ความคมชัดทำได้ยอดเยี่ยม เรียกได้ว่าคมยันขอบทีเดียว แถมโฟกัสใกล้ได้ก็ถ่ายสนุกมากขึ้นเวลาต้องจ่ออะไรเล็กๆ ครับ ใครที่ชอบถ่ายพวกอาหาร ของเล่น หรือแนว Street แนะนำตัวนี้ไว้ในครอบครอง เพราะฟีลลิ่งในการใช้งานจะแตกต่างกับ EF 50 F1.8 ตรงที่การจับถือและระยะโฟกัสใกล้สุดนี่แหละครับ ตัว EF 50mm F1.8 ผมว่าเหมาะกับงาน Portrait มากกว่า
ถามเรื่อง DOF ของ F2.8 แล้ว ประกบกับ Canon EOS 650D แล้ว ได้ภาพเบลอหน้าเบลอหลังสวยๆแน่นอนครับ แน่นอนว่าอย่างที่บอกไป ไม่ได้เน้นถ่ายคนขนาดต้องการเบลอหลังกระจุยกระจายเล่นตัวนี้สนุกกว่าครับ
การเก็บรายละเอียดและความคมชัดถือว่ายอดเยี่ยมมากครับ รวมถึงสีสันที่ถ่ายทอดจากเลนส์ EF 40mm F2.8 นั้นก็สมจริงสวยงามครับ
สำหรับความคมของเลนส์ Canon EF 40mm F2.8 ตัวนี้ ให้ 5 ดาวเลยครับ ความคมไม่เป็นรองเลนส์แพงๆเลย ลองไปดูภาพตัวอย่างกันครับ แถมด้วยกล้อง Canon EOS 650D ตัวนี้ หน้าจอบิดพับได้ เอามาใช้ถ่าย Self Portrait ได้ง่าย และไม่ต้องใช้นิ้วแตะชัตเตอร์นะ แค่จิ้มหน้าจอก็ถ่ายรูปตัวเองง่ายๆ ได้แล้ว
Canon EOS 650D กับการทำงานร่วมกับเลนส์ Ef 40mm F2.8 ตัวนี้ นอกจากเรื่องของน้ำหนักที่เบาและขนาดที่เล็กแล้ว ในเรื่องของการโฟกัสที่เงียบก็เป็นประโยชน์ในเรื่องของการถ่ายภาพในสถานที่ ที่งดใช้เสียง (ส่วนเสียงชัตเตอร์กล้องนั้น ยังไงก็มีครับปิดไม่ได้)
มาดูเรื่องการทำงานของ White Balance กันมั่งครับ ความฉลาดในการคำนวณค่าแสงแบบ Auto นั้น ถือว่าฉลาดพอตัวทีเดียว การถ่ายวัตถุสีขาวภายใต้แสงหลอดไฟในอาคาร ยังคงแสดงผลได้ค่อนข้างดี
ส่วนในเรื่องของ Noise นั้น Canon EOS 650D พัฒนาเรื่องนี้มาอย่างดี แม้ว่าจะใช้ ISO สูงๆ แต่คุณภาพไฟล์ที่ได้นั้น ยอมรับได้ ลองไปดูภาพตัวอย่างจาก ISO 12800 ครับ
และสำหรับหน้าจอระบบ Touch Screen ของ Canon EOS 650D ตัวนี้ เพิ่มความสะดวกในการถ่ายภาพต่างๆ โดยเฉพาะโหมดโฟกัสติดตามวัตถุุ อย่างภาพเด็กด้านล่างที่หันซ้ายหันขวา ไม่ยอมอยู่นิ่งๆให้ถ่าย กล้องตัวนี้จัดการโฟกัสให้เข้าเป้าครับ แถม Live View ทำงานตลอดเวลาในการโฟกัสด้วย ไม่ติดๆ ดับๆ ให้รำคาญใจอีกต่อไป
หากจะสรุปถึงกล้อง Canon EOS 650D ตัวนี้ ก็ต้องบอกว่าเป็นกล้องสำหรับมือใหม่ไปจนถึงมืออาชีพที่เน้นกล้องถ่ายภาพที่ ถ่ายได้ง่าย ถ่ายสนุก รวมไปถึงบรรดาช่างภาพที่ใช้งานวีดีโอเป็นหลัก เนื่องจากการทำงานของระบบ Touch Screen และระบบโฟกัสที่ปรับปรุงมาใหม่นั้น ถือเป็นจุดเด่นที่น่าใช้มากเลยทีเดียว การอัพเกรดจากรุ่นเก่าอย่าง Canon EOS 600D นั้นก็จะได้ประโยชน์จากจุดเด่นที่ว่าเป็นหลักเลยครับ
จุดเด่น
- ความรวดเร็วในการโฟกัส โดยเฉพาะการใช้งาน Live View ประทับใจมากๆ
- ระบบ Touch Screen ทำงานรวดเร็ว แตะปุ๊บปถ่ายปั๊บ รวมถึงดูภาพซูมเข้าออกได้ง่ายเช่นเดียวกับแบบมือถือ
- ระบบโฟกัสน่าประทับใจมากกับ Cross Type 9 จุดที่แม่นยำ ไม่วืดวาดเหมือนรุ่นก่อนหน้านี้
- มีระบบแฟลชไร้สายให้ใช้
จุดสังเกต
- หน้าตาดีไซน์คล้ายตัวเดิม
- หากเปิด Live View ไว้แล้วเผลอไปแตะโดนจอ ชัตเตอร์ลั่นเองโดยไม่ตั้งใจ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น