DSLR มาจากคำว่า digital single lens reflex
เป็นกล้องสะท้อนภาพเลนส์เดี่ยวด้วยระบบดิจิตอล มีลักษณะเหมือนกล้องที่ใช้ฟิล์ม เพียงแต่ใช้เซ็นเซอร์ในการรับภาพแทนฟิล์ม
กล้อง D-SLR มักนำตัวกล้องที่ใช้ฟิล์มแบบ 35mm. SLR มาดัดแปลงให้เป็นกล้องดิจิตอล โดยเปลี่ยนฝาหลัง และแทนที่ฟิล์มด้วยเซ็นเซอร์รับภาพ ซึ่งมีส่วนประกอบดังนี้
เซ็นเซอร์รับภาพ หรือเรียกว่า Image Sensor ใช้ในการรับสัญญาณภาพ แล้วแปลงเป็นสัญญาณดิจิทัล
กล้อง DSLR เป็นกล้องระดับมืออาชีพที่นิยมใช้กัน คนที่ใช้ควรมีความรู้ในด้านการใช้กล้องดิจิตอลอยู่บ้าง จุดสำคัญสามารถเปลี่ยนเลนส์ได้ และใช้การมองผ่านเลนส์โดยตรงผ่านช่องมองภาพ ทั้งนี้โดยอาศัยการหักเหของแสง
กล้อง DSLR มีสองประเภท
1. เป็นกล้องแบบตัวคูณทางยาวโฟกัส เป็นกล้องดิจิตอลที่มีเซนเซอร์เล็กกว่าฟิล์ม เมื่อเทียบกับฟิล์มทำให้ระยะต่างๆเมื่อเที่ยบฟิล์มมีระยะที่น้อยกว่า เช่นช่วงซูม 18 – 55 จะอยู่ในช่วงระยะฟิล์มคือ 28.8 – 88 มม. คูณด้วย 1.6 เท่า ( คูณกี่เท่านั้นขึ้นอยู่กับขนาดเซนเซอร์ของกล้องดิจิตอนที่ใช้ )
เซนเซอร์ตัวคูณ มีเซนเซอร์อยู่หลายขนาด แต่ละขนาดการตกกระทบของแสงก็มีการคูณที่ต่างกัน
เซนเซอร์ แต่ละขนาด
Pentax ได้ออกผลิตกล้องที่มีขนาด 1/2.3 (6.17 x 4.55 mm) ซึ่ง คูณด้วย 5.53 เท่าของความยาวโฟกัสเลนส์ คือ Pentax Q ซึ่งกล้องดิจิตอลตัวถัดๆมาก็ได้เปลี่ยนมาใช้ ขนาด APS-C แทนเพื่อต่อสู้กับขนาดเซนเซอร์ของคู่แข่ง
Pentax Q
เซนเซอร์ของกล้อง Nikon 1 คูณด้วย 2.7 เท่าของความยาวโฟกัสเลนส์ มีเซนเซอร์ขนาดประมาณ 13.2 x 8.8 mm
Nikon V1
Micro Four Thirds คูณด้วย 2 เท่าของความยาวโฟกัสเลนส์ มีเซนเซอร์ขนาดประมาณ 17.3 x 13 mm ( Panasonic , Oly )
APS-C ขนาดเซนเซอร์ประมาณ 22x15 มิลลิเมตร เป็นเซนเซอร์ที่มีขนาดเล็กสุด บางยี่ห้อคูณด้วย 1.6 ( canon ,Nikon ) , 1.5 ( sony ) เท่าของความยาวโฟกัสเลนส์
APS-H ขนาดเซนเซอร์ประมาณ 29x19 มิลลิเมตร คูณด้วย 1.3 เท่าของความยาวโฟกัสเลนส์ เซนเซอร์เป็นกล้อง DSLR ระดับสูง เน้นความเร็ว ซูมไกล แต่คุณภาพดีกว่า APS-C ขึ้นมาหน่อย
แต่ความสามารถในการออกแบบ ในการถ่ายภาพต่อเนื่อง และความเร็วในการโฟกัสที่ดีขึ้น ทำให้กล้องรุ่นสูงๆ เปลี่ยนมาใช้ ระบบ Full Frame กันมากขึ้น
APS-H
2. แบบ Full Frame ( เซนเซอร์ขนาดเทียบเท่ากับฟิล์ม )
เซนเซอร์ขนาดประมาณ 36x24 มิลลิเมตร เป็นกล้องที่ใช้ระดับมืออาชีพ เพราะสามารถเก็บรายละเอียดของของแสงได้ดี (ไดนามิกเรนจ์ (Dynamic Rage)) ให้รายละเอียดของสีได้สูงกว่า ด้วยตัวรับแสงที่มีขนาดใหญ่ ทำให้สัญญาณรบกวน (NOISE) เกิดขึ้นได้น้อย มักใช้กับงานที่เน้นคุณภาพ มีราคาที่สูง และเลนส์ที่ใช้ไม่สามารถใช้ได้กับเลนส์บางชนิดได้ ช่างภาพมืออาชีพมักนิยมใช้กล้องแบบ Full Frame กัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น