DSLT มาจากคำว่า Single Lens Translucent ผู้ที่นำมาใช้กับกล้องดิจิตอลที่เปลี่ยนเลนส์ได้เป็นเจ้าแรก คือ บริษัท sony
ซึ่งนำระบบ DSLT มาใช้แทนกล้อง DSLR เดิมของตัวเอง ด้วยเทคโนโลยี
Translucent เทคโนโลยีใหม่ที่ยกเอากระจกสะท้อนภาพแบบเดิมที่เคยอยู่ใน DSLR
ออกไปแล้วทดแทนมันด้วยกระจกที่สะท้อนแสงเพียง 30% ไปยังระบบออโต้โฟกัส
และอีก 70 % ไปยังเซนเซอร์อยู่ตลอดเวลา ทำให้เปิดระบบ Live View พร้อม Auto
focu และ ถ่าย VDO พร้อมโฟกัสติดตามวัตถุเคลี่อนไหว
ได้ตลอดเวลา ทำให้กล้อง DSLT ที่มีกระจกโปร่งใส ทำให้โฟกัสได้รวดเร็ว
แม่นยำ ทั้งนี้ด้วยระบบโฟกัสที่ได้เปรียบกว่า DSLR
ทำให้การถ่ายภาพนิ่งและวีดีโอทำได้ง่ายกว่าระบบ DSLR อย่างมาก
ข้อดี
- เปิดระบบ Live View พร้อม Auto focu ในภาพนิ่ง และ ถ่าย VDO พร้อมโฟกัสติดตามวัตถุเคลี่อนไหว ได้ตลอดเวลา
- ช่องมองภาพแบบ DSLT นั้นรูปที่ออกมาจากช่องมองภาพจะเป็นภาพอย่างนั้นเลย ทำให้เราไม่ต้องกังวลว่าก่อนถ่ายและหลังถ่ายจะเป็นเช่นไร
- โฟกัสได้แม่นยำกว่า
- ถ่ายภาพต่อเนื่องได้รวดเร็วกว่า
ข้อเสีย
- ความไม่เคยชินกับช่องมองภาพ ที่เป็น Electronic Viewfinder
- แต่ยังมีข้อถกเถียงกันว่า แสงที่หายไปอีก 30 % นั้นทำให้คุณภาพของงานภาพนิ่งโซนี่สู้กล้องที่เป็น DSLR ไม่ได้จริงหรือ
Sonyได้นำเทคโนโลยี DSLT (Single Lens Translucent) มาใช้กับกล้อง Sony a33 และ Sony a55 เป็นตัวแรกๆ และยืนยันว่าตัวเองจะหันมาใช้ DSLT แทน DSLR ( กล้องรุ่นใหญ่ของ sony ต่อไปจะเป็น DSLT และการพัฒนาในรูปแบบการถ่ายวีดีโอคงเพิ่มขึ้นในอนาคต )
สมัยก่อน Canon เคยเอาระบบนี้มาใช้ แต่เป็นสมัยฟิล์ม คือรุ่น Canon EOS 1N RS แต่ไม่ได้รับความนิยมเท่าไหร่
ดูต่อไปว่าการพัฒนากล้อง DSLT ในอนาคตต่อไปจะเป็นเช่นไร แต่แน่ใจได้เลยว่างานวีดีโอที่มาจาก DSLT จะทำได้ดีกว่ากล้อง DSLR แน่นอน
กล้อง DSLT ที่อยู่ในท้องตลาดตอนนี้มี Sony a33,Sony a55,Sony a65,Sony a77, Sony a57
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น